มันคืออะไร?

 
หลายวันมานี่  เรานั่งเฝ้ามองมัน มันเหมือนความว่างเปล่า  เราเรียกมันแบบนั้น เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร
มันไม่มี มันไม่ไป มันอยู่นิ่งๆ  แต่เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร
 
มองผู้คนผ่านไปมา เหมือนมองอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่ผ่านๆไปมา มันไม่ไปรู้สึกอะไรกับคนเหล่านั้น
จะให้พิมพ์อะไร มันก็ไม่อยากจะพิมพ์ มันนั่งนิ่งๆ นั่งนิ่งๆ ได้เป็นชม.แล้ว ชม.เล่า  มันไม่รู้จะไปคิดอะไร มันแค่รู้
 
เรานั่งยิงบอลสีๆ ยิงมันอยู่อย่างนั้น เผื่อว่าจะมีความคิดอะไรดีๆเกิดขึ้นมาบ้าง
จริงๆแล้ว อยากจะไปเดินจงกรม  ไปเจริญสติมากกว่าที่จะมานั่งอยู่อย่างนี้  พอดีกำลังรอน้องสองคน
อีกคนก็ไม่รู้ว่าจะทำหรือไม่ ส่วนอีกคนลืมถามเวลา ว่าเขาทำรอบละกี่ชม. 
 
ตอนนี้ไม่อยากพิมพ์อะไรเลยนะ  เอาแต่นั่งนิ่งๆ อย่างเดียว
ที่ทำงานก็เหมือนกัน เราก็นั่งนิ่งๆแบบนั้น ดูท้องพองยุบ  บางครั้งสติไม่ทัน มันก็ดิ่งแล้วดับไป
เราก็ไม่สนใจมัน มันจะดิ่งหรือจะดับ เราก็แค่ดูมัน ไม่มีพอใจ ไม่มีความรู้สึกใดๆ
 
แต่ทุกๆวัน เราต้องทำอย่างน้อย 5 ชม. ทุกวัน ไม่เคยขาด 
วันนี้มีคนที่ทำงาน เสียชีวิตอีก 1 คน อายุ 50 กว่าๆ มะเร็งตับ เขาไม่รู้ตัว พอรู้ตัวเลยหมดกำลังใจ ตายทันที
 
เราก็ย้อนมองกลับมาที่ตัวเรานะ ถามตัวเองว่า ยังต้องการอะไรอีกไหมในชีวิต  มันก็มีคำตอบมาทันที ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
ไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็นอะไรๆทั้งสิ้น  นี่ก็รอน้องสาวว่าง จะให้มาขนของที่บ้านนี้ไป ไม่งั้นเราแจกเขาหมด
น้องบอกว่า อย่าให้ใครๆอีก ให้เก็บไว้ก่อน แล้วจะเอารถมาขนไป
 
มองอะไรๆมันก็เหมือนๆกันไปหมด ไม่มีความแตกต่างกันเลย แม้แต่สักนิดเดียว
ทีวีเราไม่ได้ดูมาตั้งแต่เข้าพรรษาแล้ว หนังสือพิมพ์ก็ไม่เคยอ่านมาตั้งแต่เข้าพรรษาเหมือนกัน
ชีวิตสงบดีนะ  มีแต่การเจริญสติทุกลมหายใจเข้าออก  พอจิตมันว่าง มันจะจับพองยุบโดยอัตโนมัติ
 
อะไรที่เคยรู้สึกว่ามันร้ายๆในชีวิต  เดี๋ยวนี้มองมันมากขึ้น จิตไม่ไปข้องแบบเมื่อก่อน จิตมันไม่เอาแล้วนะ มันแค่ดู
ชีวิตคนเรามีแค่นี้เอง  กิเลสที่พอกหนาอยู่ในจิตใจ เพราะอวิชชาครอบงำไว้ จึงทำให้สร้างเหตุไปด้วยความไม่รู้อยู่ตลอดเวลา
ภพชาติจึงไม่รู้จักจบจักสิ้น เพราะตัณหา ความทะยานอยาก มีเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ มีแล้ว ยังตะเกียกตะกายทำให้มีมากขึ้นไปเรื่อยๆ
 
พอตายโครม!!!!!  …
หมดกันเลย จบสิ้นทันที เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่างเดียว  มีแต่เหตุที่เคยสร้างเอาไว้ ดีและชั่ว ตามความเป็นจริง ที่ถูกบันทึกลงไว้ในจิต
ชีวิตคนเรามีแค่นี้เองนะ  ยังดีนะ กุศลของเรายังมีที่ได้มาเจริญสติปัฏฐาน 4 ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่า ป่านนี้ชีวิตของเราจะเป็นยังไงบ้าง
 
อาจจะสนุกสนาน ใช้ชีวิตไปแบบในสิ่งที่ตัวเองต้องการทำ  และ มีแต่ความอยากมี อยากได้  ต่อไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ไม่อยากมี ไม่อยากได้อะไรทั้งสิ้น  ก็จะเจริญสติแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ
 
เหมือนมีความคิด แต่มันแผ่วๆ  มันไม่มีความหมายในความคิด  เราก็แค่รู้มันไป  มันก็แค่ความคิด ไม่มีกุศลและไม่มีอกุศล
เหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่มาเกี่ยวข้องใดๆกัน  ก็ดีนะ ไม่วุ่นวายดี 
 
 

ใส่ความเห็น

ธันวาคม 2009
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031  

คลังเก็บ