ก่อนหน้านี่ ที่บ้าน หัวใจวาย หมดสติ ๑ พศ. ๒๕๖๑
ที่รพ.มงกุฏ หัวจล้มเหลว หมดสติ ๑ จำไม่ได้ล่ะ ต้องดูสมุดที่จดไว้
จะกิน จะดื่ม ไอ ขากเสลด แปรงฟันใช้แบบสั่น
ทุกสิ่งที่ทำปัจจุบัน จะเหมือนการทำกรรมฐาน
สังรวม สังวร
แม้กระทั่งขับถ่าย ห้ามเบ่ง
อาจเพราะถูกปฏบิัติมาหนักก่อน จึงไม่ทำให้รู้สึกทุกข์
เพราะเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ
ดีกว่าจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก
เหมือนพร้อมจะวูบทีนที
อาศัยการสะสมจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
แทนที่จะวูบ กลับมาเป็นจิตเป็นสมาธิแทน
พอมีอาการจะวูบ จะรู้ทัน โอภาสจะมีเกิดขึ้นทันที
ถ้าถามว่าอันไหนดีกว่ากั
ยอมลำบากกาย ดีกว่าลำบากใจ
เมื่อแผลหาย สายไฟฟ้าที่ต่อไว้จะไม่หลุด
ทให้สามารยืดอายุไปถึง๑๐ ปี
วันนี้เริ่มใช้การพิมพ์ได้
เพราะเปรแป้นลอย วางบนตักใต้
ใชมือเดียวในการพิมพ์
มื้อซ้ายจะใช้ปลายนิ้วกลางกดแป้น
ไม่อ้าแขนซ้าย ให้แนบลำตัว
ข้อศอกแนบหน้าอก อันนี้จำไม่ได้ ไว้ครั้งหนาค่อยถาม
คือทำตามที่การใส่สลิงค์ ไม่เอาผ้าออก
บางครั้งยังมีเผลอ เช่นจะแขวนผ้าขนหนูต้องใช้สองมือ
พอทำปั๊บ รีบวางมือซ้ายให้แนบอยู่กับตัว เหมือนหักศอก
หมอให้ใส่สลิงค์ไว้ตลอดเวลา จะได้ไม่เผลอ
ที่หมอกังวลคือเรามีอาการความจำเสื่อมที่เกิดจากสมอง
เดี๋ยวจะเผลอ อาจทำให้จะหลุดจากกล่องที่ต่อไว้ เป็นอันตราย
ตอนนี้บอกเจ้านายว่าทุกวันซื้อข้าวกล่องสำเร็จจากเซเว่น วันละกล่อง
กินเสร็จ ไม่ต้องล้างชาม
ซื้อนมที่เรากินประจำ สำหรับมื้อเช้าและมื้อเย็น เพราะต้องกินยา
เสื้อที่ใส่ เรามีเสื้อมกล้ามเยอะ
ตัดหัวไหล่ซ้ายออก เหลือบ่าข้างขวา
เวลาใส่สือ จะสอดจากด้านล่างคือเท้า แล้วมือขวาดึงเสื้อยึดขึ้นข้างบน
เหมือนคนแขนหัก ใส่เสื้อไม่ลำบากเท่าไหร่นัก
ตั้งแต่หลังผ่าตัด จะรู้สึกอาการกระตุกที่อกซ้าย เกิดสั้นๆ
หมอบอกว่าเครื่งจะช่วยทำให้ไม่หมดสติ เวลาหัวใจเต้นเร็ว
ตอนที่หมอผ่าตัด ได้ฟังหมอคุยกับจนท.ที่ช่วยหมออยู่
หมอบอกว่าเขาเป็นคนเหมือนไม่มีศาสนา ไม่ใส่บาตร
ไม่ทำบุญ ทำทาน เวลาใครมาพูดก็ตาม
หมอจะมองว่าล้วนท่องจำกันมาแล้วมาสอน
ไม่รู้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด
ด้วยเหตุนี้หมอจึงไม่มีสัทธา เมื่อไม่มีจึงทำทำเหมือนคนที่ไม่มีศาสนา
เรายังฟังนะเหมือนเสียงวิทยุเปิดให้ฟัง จะวูบๆเป็นระยะ
พอวูบจะมีแสว่างกับความืดเกิดสลับกัน
หมอบอกว่าเช้ามาไปทำวัน เลิกงานกลับบ้าน
ชีวิตจะป็นแบบนี้ ทำให้รู้สึกเบื่อ เบื่อก็เบื่ออยูอย่างนั้น
อันนี้เราอาจจะคิดเข้าข้างไดนะ
จู่ๆที่หมอมาพูเหล่านี้
อาจเป็นไปได้ว่า ที่เราตัดสินใจใส่กล่อง ทั้งๆที่รู้ว่าเสี่ยง
เกิดจากพระไตรปิฏกและสภวะการปฏิบติ
หากตายไปตอนนี้ ทุกสิ่งจะหายไปหมด
เรามักมีอาการแน่นหน้าอกบ่อย วูบบ่อย
เหมือนชีวิตแขวนไว้บนส้นด้าย พร้อมจะขาดทันที
อาจจะการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป
จากเคยหิ้วของหนักได้ แขนซ้ายไม่สามารถหิ้วของหนักได้
เวลาตากผ้า อย่าโหนราวตากผ้า เวลาตากผ้า ตากที่ต่ำ
คือใช้มือขวาในการทำงานเป็นหลัก
คงรอทุกอย่างเข้าที่ ต้องฟังหมอแนะนำ
ลืมเขียนเรื่องความคันรอบที่ติดพลาสเตอร์ปิดอยู่
แค่ลูบๆแต่ไม่เกา แต่แหมคันนะ
รอบนอกสามารถใช้แอลกอฮอลล์เช็ดได้
ห้าทำพลาสเตอร์เปียก
มื้อเช้าเคยกินธัญพืช ตอนนี้งด เพราะระคายคอ แล้วไอตามมา
อาการไอมีผลต่อเส้นเลือด งดไปก่อน
—
เพิ่งกลับมา ลำบากเหมือนกน
สภาวะที่มีเกิดขึ้น เวทนา ขนะทำกรรมฐาน
ไม่ได้ใช้ยาสลบ รู้สึกตัวตลอด
ได้มอฟินมาช่วย
กายและจิตที่ฝึกไว้ดี
แม้จะมีเวทนาตอดสอดสายเข้าไปในเส้นเลือด
หมอจะใ้ช้แรงดันส่ยไฟฟ้า ในเส้นเลือด
น่าจะเหมือนคนไข้เส้นเลือดตีบ
เล่าแค่นี้พอ เขียนลำบาก หมอห้ามงานมื้อซ้าย
เหมือนแขนหัก
สองอาทิตย์ค่อมาเล่ากัน
ห้ามน้ำโดนแผล ห้ามอาบน้ำ
ขัางเตียง สำบอลลูน
หมอให้กลับ จนท.บอกว่าอย่าเบ่ง
ปรากฏว่าตอนเช้าไปดีๆ
กลับมาอีกที เข้าวัด
2 วัน ·
พรุ่งนี้เตรียมตัวไปรพ.สิรินธรใส่ppm
จะได้ไม่ต้องรู้สึกเหมือนมรณะจ่อ คือมีเกิดขึ้นเนืองๆ
เหมือนครั้งก่อนๆ แต่ครั้งนี้หนักกว่าเก่า
เหมือนความตายที่เกิดจากหัวใจล้มเหลว แล้ววูบไป
หากไม่กลับมาฟื้นกลับคืนอีก นั่นคือจบชีวิตแค่นั้น
สิ่งที่เขียน จะไม่สามารถเขียนได้อีก
อีกอย่างหนึ่งใจบอกว่าทำไมต้องให้ตัวเองลำบาก
เพราะหลังการใส่กล่อง จะมีผลกระทบตามหลัง
แล้วต้องดูแลตัวเอง ระวังหลายอย่าง
บอกความรู้สึกให้เจ้านายฟัง
ตอนที่ตัดสินใจใส่กล่องตามที่หมอสมศักดิ์ให้ใส่นั้น
คิดนึกถึงพระสูตรที่เขียนไว้ยังไม่จบ ยังไม่สมบูรณ์
เนี่ยเพิ่งนึกออกว่าโสดาบันยังขาดอีกพระสูตรเรื่องการสอบอารมณ์
ตามที่ในพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ตามลำดับ
ส่วนคนที่อ่าน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับสภาวะที่มีเกิดขึ้น
แล้วคาดเดาว่าตนเข้าถึงพระโสดาบัน อันนี้ก็แล้วแต่
คนนั้นๆจะเข้าใจอย่างไรมากน้อยแค่ไหน
ข้อแรก เกิดจากความอยากเป็น
ส่วนมากเห็นเกิดทุกข์
แล้วเข้าใจว่าเมื่อตนเป็นพระโสดาบัน ไม่ต้องทุกข์อีกต่อไป
อันนี้เป็นการเข้าใจผิด
ข้อสอง เกิดจากไม่เคยฟังคนที่เข้าถึงโสดาปัตติผลตามจริง มาก่อน
ไม่รู้สิ เชื่อตามที่หมอสมศักดิ์พูด
หมอบอกว่าประคับประคองตามแรกๆ
พอสายไฟเข้าที่ จะใช้ชีวิตปกติได้
หากหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล่องตัวนี้จะทำงานอัตโนมัติ
เคยอ่านในพันทิป เขาเล่าว่าเหมือนโดนไฟช๊อต แล้วหัวใจกลับมาเต้นปกติ
อีกคนเล่าว่าตาของเขาอายุ 80+ปี ใส่กล่อง ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่
เมื่อวานซักผ้าปู เครื่องนอนทั้งหมด ถุงเท้าของเจ้านาย
วันนี้ซักเสื้อผ้า ไม่นึกว่าฝนจะตก ที่ไหนได้ ตอนเย็นฝนตกหนัก
ผ้ายังไม่แห้งเลย คงให้เจ้านายมากลับเอง
เพราะเราต้องนอนรพ. ไม่รู้ว่ากี่วัน
เสริชดู รพ.โพสไว้ว่าอยู่รพ.หนึ่งถือสองวัน แล้วกลับบ้านได้