การเดินจงกรม ส่วนมากจะก่อปัญหาเกิดขึ้นให้กับผู้ปฏิบัติ จริงๆแล้วอยากจะเขียน แต่ตอนนี้ขี้เกียจเขียน เลยเอาสภาวะของผู้ปฏิบัติมาให้อ่านแทน น่าจะช่วยคลี่คลายเรื่องการจงกรมได้ดี ทั้งเรื่องระหว่างการใช้กำหนดหนอเข้ามาช่วย กับ การรู้ลงไปในอริยาบท
September 28
เดินจงกรม 1
การเดินจงกรม ส่วนมากจะก่อปัญหาเกิดขึ้นให้กับผู้ปฏิบัติ นำสภาวะของผู้ปฏิบัติมาให้อ่าน
น่าจะช่วยคลี่คลายเรื่องการจงกรมได้ดี ทั้งเรื่องระหว่างการใช้กำหนดหนอเข้ามาช่วย
กับ การรู้ลงไปในอริยาบท
กระต่ายขนฟ says
เดิน 60 นั่ง 50 ตอนเดินวันนี้ ช่วงต้น มีแต่ความอยาก
และความคิดเรื่องการปฎิบัติค่ะ มีความรู้สึกว่าปฎิบัติไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะกำหนดแบบไหน
ถึงจะมีสติ ก็พยายามหายใจยาวๆ
แล้วเดินไป แต่ก็ยังเป็นตลอด ระหว่างที่เกิดความรู้สึกเหล่านี้
ก็ยังพอรู้การเดินได้ คือจะรู้ตอนยก เท้า เท้ากระทบพื้น
ตอนก้าวเท้าไปด้านหน้า ส่วนใหญ่จะรู้ได้เล็กน้อยแล้วก็จะหลง
ไปเกิดอารมณืที่บอกมาค่ะ ก็พยายามรู้ลงไปที่อารมณื กำหนดรู้หนอ หายใจยาวๆ
มันก็ยังไม่หายยังมีบทบาทอยู่ ก็เดินๆต่อไป แล้วอีกสักพักใหญ่
สภาวะก็เปลี่ยนเป็น มีแน่นที่จมูก
แล้วจิตก็นิ่งขึ้น ความว้า วุ่นความอยากยังมีอยู่ แต่ขึ้นมาสั้นๆ
แต่ความคิด ยังมีมาตลอด แต่ ก็ไม่ยาวมาก ก็กลับมากำหนดรู้ที่เท้าได้ดีขึ้นค่ะ
แล้วก็เดินๆไป เด๋วก็กลับมาอยากใหม่แต่ไม่แรงมาก คราวหลังนี้กำหนดแล้วมันจางลง
ได้บ้างน่ะค่ะ แล้วพอมานั่งครั้งนี้ก้อลองพยายามหายใจยาวๆ จริงจัง ตอนต้น
สังเกตเห็นว่าลมมันสั้นมันจะไม่เข้าไป จะติดที่อก ก็ลองหายใจต่อ
พบว่าคราวนี้ลมจะละเอียดมากเย็นๆ แต่เป็นการใช้พลังจากอกหายใจ
ทำแบบนี้อยู่ 5 ครั้ง สังเกตุเห็นลมเด่นชัด เลยจับที่ลม
ความร้อนที่กระทบ การหายใจเข้า – ออก แล้วก็ จิตมันลอยไปคิดไวมาก
คือถ้าดูลมแล้วจิตจะลอยไว
ก็มาดูใหม่ว่าเห้นกายไหม ก็เห็นกายคลื่อนไหว เลยจับที่กาย กายเคลื่อนไหว นิดเดียว
สักพักก็มีหลงไปคิด คราวนี้ไม่ไปหลับในค่ะแต่ลอยไปคิดเบาๆ ไม่รู้คิดอะไร
แล้วก็พอรู้ว่าลอย ก็จะพยามๆกลับมารูกายใหม่แบบนี้ค่ะ ช่วงหลังๆของการนั่ง
เห็นจิตมมันลอย แล้วกำลังจะดึงกลับมาโดยหายใจยาวๆ ตอนนั้นึกว่ารู้สึกตัวอยู่
อยู่ๆมันงุบลงไปเลยทั้งๆที่กำลังจะตั้งต้นหายใจ ยาวๆ ก็งุบลงไปต่อหน้าเลยค่ะ
แล้วก็หายใจยาวๆ อีก แล้วดูต่อ
ก็มีรู้สึก ตัวบ้าง แต่ส่วนใหญมันจะลอยไปค่ะ
รู้ว่าลอยก็พยายามอีก แบบนี้จนจบค่ะพี่
สุขที่แท้จริง says
พี่ถามนะคะ หมูเข้าใจคำว่า แค่รู้มั๊ยคะ
กระต่ายขนฟ says
แต่ก่อนก็คิดว่าเข้าใจ แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วค่ะ
สุขที่แท้จริง says
เป็นยังไงคะ เมื่อก่อนเข้าใจว่ายังไง
กระต่ายขนฟ says
ก็ช่วงแรกๆของการปปฎิบัติ เวลามีอารมณือะไรเด่นก็แค่รู้ว่ามันมี
แล้วมันจเปลี่นให้เราเห็นน่ะค่ะพี่ แล้วก็เปลี่ยนการรู้ไปเรื่อยๆ
ไม่ต้องไป สนใจว่ามันจะเป็นอย่างไร แค่รู้ว่ามันมี แล้วเด๋วมันก็เปลี่ยน
สุขที่แท้จริง says
แล้วตอนนี้ล่ะคะ
กระต่ายขนฟ says
ตอนนี้มัน ไม่เปลี่ยนให้เห็นแบบแต่ก่อนค่ะ มันยากขึ้น
แล้วก็ ต้องเดินนานๆ ถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบเป็นกลลุ่มก้อนค่ะพี่
สุขที่แท้จริง says
คืออะไรคะเป็นกลุ่มเป็นก้อน
กระต่ายขนฟ says
คือ อย่างตอนแรก ที่หมูอยาก ปฎิบัติ น่ะค่ะ
เจ้าความอยาก ความฟุ้งซ่านมาทยอยมาเป็นระลอก ดูแล้วมันยังไม่หายไป
หลายๆ ครั้งจนผ่านไปนานๆ ถึงเปลี่ยนเป็นความนิ่ง
แล้วเห็นว่าจิตมันเปลี่ยนไป สภาวะเปลี่ยนน่ค่ะ แต่สมัยก่อน
จะเห็นว่ามันเปลี่ยนแปลงแทบจะ ไม่มีกก้าวแบบนี้น่ค่ะ
สุขที่แท้จริง says
รู้มั๊ยว่ามันนิ่งเพราะอะไร
กระต่ายขนฟ says
สมาธิ…น่าจะนะคะ
สุขที่แท้จริง says
เข้าใจถูกนี่คะ แล้วหมูไปสงสัยอะไรล่ะนั่น
กระต่ายขนฟ says
คือ บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ แต่รู้สึก ว่ามัน จะพยายามปฎิบัติให้ถูก
สุขที่แท้จริง says
ความอยากไงหมู
กระต่ายขนฟ says
ค่ะพี่ คือมันรู้สึกว่า ถ้าปฎิบัติถูฏแล้วสภาวะจะต้องดับให้เห็น
สุขที่แท้จริง says
พี่เคยบอกแล้ว การเจริญสติ เมื่อสติเริ่มดีขึ้น
เราจะได้สมาธิเป็นของแถม อะไรล่ะสภาวะดับน่ะค่ะ
กระต่ายขนฟ says
คือ เห็นว่ามันขึ้นมาแล้วคลลายลงไป ไม่ไปติดกับสภาวะเดิมๆ น่ะค่ะ
อันนั้นหมูจะรู้สึกว่าทำถูก
สุขที่แท้จริง says
ก็สติหมูยังไม่มากพอนี่ จะไปเห็นรายละเอียดแบบนั้นได้ไงล่ะคะ
กระต่ายขนฟ says
ค่ะพี่ แบบว่ามันเคยทำได้ แหะๆ
สุขที่แท้จริง says
มันเที่ยงมั๊ย
กระต่ายขนฟ says
ไม่เที่ยงค่ะ
สุขที่แท้จริง says
นั่นสิ แล้วหมูไปยึดอะไรล่ะนั่น
กระต่ายขนฟ says
คือพอมันเคยทำได้แล้วอยู่ไมใได้เราก็จะคิดว่าเราทำผิดหรือเปล่าน่ะค่
สุขที่แท้จริง says
ก็สติของหมูยังไม่มากพอ แล้วสมาธิยังไม่ตั้งมั่น แค่นั้นเองจะมีอะไร
มันต้องมีทั้งสติและสมาธิที่ตั้งมั่นประกอบกันค่ะ
กระต่ายขนฟ says
บางครั้งมันก็ตั้งมั่น บางครั้งมันก็ไม่ตั้ง
สุขที่แท้จริง says
นั่นสิ แล้วหมูจะไปคาดหวังอะไรกับมัน เหมือนแค่รู้ ที่พี่น้ำถามไปเมื่อกี้
เวลาหมูเดิน แค่รู้ว่ากำลังเดิน ความคิดเราไปห้ามมันไม่ได้
มีใครบ้างห้ามความคิดได้ มีห้ามได้เหมือนกัน
แค่สั้นๆ คิดหนอๆๆๆ พอความคิดนี่ดับไปได้ แป๊บนึง ตัวใหม่เกิดอีกแล้ว
พี่ถึงบอกไงคะว่า ให้แค่รู้ว่ากำลังเดิน ให้มารู้อยู่กับการเดิน
มันอยากคิดอะไรก็เรื่องของมัน แต่เราเอาจิตเรารู้อยู่กับการเดิน
บางครั้งมันลอย ให้หยุดเดิน กำหนดรู้หนอๆๆๆ แล้วก็เดินต่อ
การเดินจงกรมนี่จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลย พอเราเดินมากๆ เดินบ่อยๆ
เรารู้ลงไปในการเดินได้ตลอด สติมันก็เกิดขึ้น
แต่ถ้ากำหนดตามรูปแบบ ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ อันนั้นเหมาะกับคนที่ชอบฟุ้งไปเรื่อย
คิดไปเรื่อย เอาจิตมาผูกกับกริยานี้ซะ มันก็จะฟุ้งน้อยลง
เวลาความคิดเกิด ขณะที่เดิน หมูก็แค่รู้ว่ามันมีเท่านั้นเอง
จะไปสนใจอะไรกับมัน แต่ถ้ามันคิดอกุศล เรารู้นี่
เราก็หยุดเดิน หายใจยาวๆ กำหนดคิดหนอๆๆๆ รู้หนอๆๆๆ รู้อะไร
รู้ว่ามันเป็นอกุศล มันมีเท่านี้เองเดินจงกรม
พอเราเดินมากๆ เมื่อเราไปนั่ง ก็เหมือนกับเราได้ผ่อนคลายอริยาบท
ที่เราเดินมา นอกนั้นมันไม่ได้มีอะไรเลย แต่เราทำเพื่อฝึกสติ
ทุกวันนี้เวลาพี่เดินจงกรมก็ยังมีความคิด ไม่ใช่ไม่มี มันมีบ้าง ไม่มีบ้าง
พี่ก็แค่รู้ว่ามันมี ไม่เคยใส่ใจกับมัน
พี่ก็รู้ที่เท้าก้าว ย่าง เหยียบ รู้ที่กาย รู้ที่เท้ากระทบพื้น เดินจนครบเวลา 1 ชม.
ที่ตั้งไว้ พี่ไม่เคยไปใส่ใจกับความคิดว่า
เมื่อไหร่มันจะหยุดคิด เพราะมันไม่ใช่อกุศล เลยแค่รู้ว่ามันคิด มันก็เท่านั้นเอง
หน้าที่คือ เดินให้ครบเวลาที่กำหนดไว้ รู้ที่กาย รู้ที่เท้ากระทบพื้น บางช่วงมันลอย
มันเบาไม่มีน้ำหนักเท้าหรือนน.ตัว เราก็เอาการกำหนดเข้ามาช่วย
มันมีเท่านี้จริงๆเดินจงกรมน่ะค่ะ
เหมือนเวลาพี่ถูกสอบอารมณ์ เวลาครูบาฯถาม เดินจงกรมเป็นไงมั่ง
พี่ก็ตอบว่า มันมีความคิดมันก็แค่คิด ตัวนี้หายไปตัวใหม่มา
รู้ตัวตลอดเวลาเดิน รู้ที่กายเคลื่อนไหว รู้ที่เท้ากระทบพื้น
เนี่ย คำตอบพี่มีเท่านี้เองเวลาสอบอารมณ์
อื่มมม … เรื่องความสงสัยที่หมูเป็นอยู่นั้น เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ปฏิบัติทุกๆคน
แม้กระทั่งความอยากก็เป็นไปตามกิเลสของแต่ละคน อยากมากอยากน้อย
พี่ไม่ค่อยมีเรื่องพวกนี้เลยนะบอกตามตรง คือ ทำอย่างเดียว
ครูบาฯให้ทำยังไง ก้ทำ ไม่เคยสงสัยว่ามันถูกหรือผิด
แล้วอีกอย่าง หมูดูตัวเองได้นี่ ว่า สติเดี๋ยวนี้เป็นไง โดยที่พี่ไม่ต้องบอกอะไรเลยก็ได้
แค่นี้ก็เป็นคำตอบให้กับหมูได้ พี่ถึงบอกไง ดูสติเป็นหลัก
กระต่ายขนฟ says
ค่ะพี่น้ำ
สุขที่แท้จริง says
หมูพอจะมองภาพออกมั๊ย เดินจงกรมน่ะ
กระต่ายขนฟ says
มองออกค่ะ แล้วพวก อารมณอยาก อารมซ่านๆ
ที่มันตีขึ้นมาหลังจากความคิดนี่เราก็ ไม่ต้องสนใจมันเหมือนกัน กำหนดว่ามี
ถึงไม่หายก็กลับมารู้กายต่อ ใช่ไหมคะ
สุขที่แท้จริง says
ใช่ค่ะ ทำแค่นั้นเอง แต่ถ้าเป็นอกุศลนี่ ต้องกำหนดคิดหนอๆๆๆก่อน
จึงรู้หนอๆๆทับไปอีกที
มันไม่มีอะไรเลยจริงๆนะ เพียงแต่ว่าหมูไปยึดติดมันน่ะ
ว่าเมื่อทำได้แบบนี้แล้ว จะต้องเป็นแบบนี้ตลอดไป
กระต่ายขนฟ says
ใช่ค่ะพี่ พอไม่ได้ก็ รู้สึกว่าทำไม่ถูก แต่ว่า หมูจะทำแบบที่พี่น้ำบอก
สุขที่แท้จริง says
ค่ะ เดิน 60 นั่ง 35 ค่ะ
กระต่ายขนฟ says
ได้ค่ะพี่