6-02
เมื่อคืน เข้าออกสมาธิทั้งคืน ตั้งแต่สี่ทุ่ม จนถึงเก้าโมงเช้า
เกิด-ดับ เกิด-ดับ อยู่อย่างนั้น มีเกิดขึ้นเอง
โดยไม่ได้เจตนาทำให้มีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือ …
เสพสุขที่เกิดจากจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
.
เริ่มกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิส่วนลึกได้เหมือนก่อนๆมากขึ้น
ทำไมจึงชอบกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิส่วนลึก
เหตุผลไม่มีอะไรมาก ชอบเล่นกับสมาธิ
มีครั้งหนึ่ง ตอนที่โอภาสสว่างมาก
มีความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าดูด สะดุ้งทั้งตัว
พอสะดุ้ง จิตกลับเข้าสู่สมาธิทันที
อาการไฟดูดครั้งนี้
แรงกว่าเกิดไฟฟ้าสถิตย์
.
รู้สึกดีใจเหมือนกัน ผลของการทำความเพียรต่อเนื่อง
ที่ทำให้กำลังสมาธิฟื้นคืนกลับมา ถึงจะยังไม่คืนมาทั้งหมดก็ตาม
ถ้าถามว่า ทำไมต้องดีใจด้วย
คำตอบ ดีใจสิ อย่างน้อย กำลังสมาธิที่เกิดขึ้น
ช่วยกดข่มกิเลสไว้ส่วนหนึ่ง จึงไม่ต้องใช้ความพยายามมาก
ในการหยุดสร้างเหตุนอกตัว
.
เวลาที่จิตจะเป็นสมาธิ จะรู้สึกวูบลงไป แล้วสว่าง
บางครั้ง รู้สึกวาบขึ้นมาในใจ แล้วสว่าง
หลับตาลงทุกครั้ง สว่างทุกครั้ง
บางครั้ง มองเห็นภาพภายนอกได้ชัดเจน
เหมือนลืมตามอง ทั้งที่ยังหลับตาอยู่
.
วิธีการพักผ่อน จะอาศัยถีนมิธะ จวนเจียนเหมือนอยากหลับ
คือ ถ้ามีอาการเหมือนง่วงนอน จะใช้ช่วงเวลานั้นเป็นประโยชน์
ไปนั่งทันที พอนั่งลง จะรู้สึกวูบลงไป แล้วโอภาสมีเกิดขึ้นทันที
หมายถึง จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
7-02
ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงวันนี้
ทำสมาธิรวมทั้งหมด ๑๐ ชม.
ชอบนำไปเปรียบเทียบกับอดีต
สมัยก่อนน่ะ จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ๑๐ ชม.นี่จิ๊บๆ
.
เดี่ยวนี้ไม่ต้องเจาะจงเดินจงกรมก่อนนั่ง เหมือนแต่ก่อน
คือ โน่นทำนี่ พอนั่งลง จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิทันที
รู้สึกตัว รู้ชัดก่อนจิตเป็นสมาธิ
รู้สึกตัว รู้ชัดขณะจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
รู้สึกตัว รู้ชัดขณะกำลังสมาธิคลายตัว
เมื่อจิตเข้าสู่ความดับในสมาธิ ก็รู้ชัด
.
เพียงแต่สภาวะแต่ละวันไม่เหมือนกัน
เช่นวันนี้ ก็ไม่เหมือนเมื่อวาน
เมื่อวานรู้ชัดทุกขณะ วันนี้ดับไปในสมาธิหลายชม.
สภาวะก็เป็นแบบนี้แหละ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
เมื่อวานนี้สุขเกิดตลอด วันนี้มีแต่ความสงบ
เวลาต่อวันมีทั้งหมด ๒๔ ชม.
มโนกรรมไม่เกิด ๑๐ ชม.
กายกรรม วจีกรรมย่อมดับสนิท
6-02
เมื่อคืน เข้าออกสมาธิทั้งคืน ตั้งแต่สี่ทุ่ม จนถึงเก้าโมงเช้า
เกิด-ดับ เกิด-ดับ อยู่อย่างนั้น มีเกิดขึ้นเอง
โดยไม่ได้เจตนาทำให้มีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือ
เสพสุขที่เกิดจากจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
.
เริ่มกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิส่วนลึกได้เหมือนก่อนๆมากขึ้น
ทำไมจึงชอบกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิส่วนลึก
เหตุผลไม่มีอะไรมาก ชอบเล่นกับสมาธิ
มีครั้งหนึ่ง ตอนที่โอภาสสว่างมาก
มีความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าดูด สะดุ้งทั้งตัว
พอสะดุ้ง จิตกลับเข้าสู่สมาธิทันที
อาการไฟดูดครั้งนี้
แรงกว่าเกิดไฟฟ้าสถิตย์
.
รู้สึกดีใจเหมือนกัน ผลของการทำความเพียรต่อเนื่อง
ที่ทำให้กำลังสมาธิฟื้นคืนกลับมา ถึงจะยังไม่คืนมาทั้งหมดก็ตาม
ถ้าถามว่า ทำไมต้องดีใจด้วย
คำตอบ ดีใจสิ อย่างน้อย กำลังสมาธิที่เกิดขึ้น
ช่วยกดข่มกิเลสไว้ส่วนหนึ่ง จึงไม่ต้องใช้ความพยายามมาก
ในการหยุดสร้างเหตุนอกตัว
.
เวลาที่จิตจะเป็นสมาธิ จะรู้สึกวูบลงไป แล้วสว่าง
บางครั้ง รู้สึกวาบขึ้นมาในใจ แล้วสว่าง
หลับตาลงทุกครั้ง สว่างทุกครั้ง
บางครั้ง มองเห็นภาพภายนอกได้ชัดเจน
เหมือนลืมตามอง ทั้งที่ยังหลับตาอยู่
.
วิธีการพักผ่อน จะอาศัยถีนมิธะ จวนเจียนเหมือนอยากหลับ
คือ ถ้ามีอาการเหมือนง่วงนอน จะใช้ช่วงเวลานั้นเป็นประโยชน์
ไปนั่งทันที พอนั่งลง จะรู้สึกวูบลงไป แล้วโอภาสมีเกิดขึ้นทันที
หมายถึง จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ