[๑๙๘] ดูกรอนุรุทธะทั้งหลาย เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ตถาคตเห็นอำนาจ
ประโยชน์อะไรอยู่ จึงพยากรณ์สาวกทั้งหลายผู้ทำกาละล่วงลับไปแล้วในภพที่เกิดทั้งหลายว่า สาวกชื่อโน้นเกิดในภพโน้น สาวกชื่อโน้นเกิดในภพโน้น ดังนี้.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมทั้งหลายของข้าพระองค์ทั้งหลายมีพระผู้มีพระภาคเป็นมูล
มีพระผู้มีพระภาคเป็นแบบแผน มีพระผู้มีพระภาคเป็นที่พึ่งพาอาศัย ดีละ พระเจ้าข้า ขอเนื้อความแห่งภาษิตนี้จงแจ่มแจ้งกะพระผู้มีพระภาคเถิด ภิกษุทั้งหลายได้ฟังต่อพระผู้มีพระภาค แล้วจักทรงไว้.
ดูกรอนุรุทธะทั้งหลาย ตถาคตจะพยากรณ์สาวกทั้งหลายผู้ทำกาละล่วงลับไปแล้ว ในภพที่เกิดทั้งหลายว่า สาวกชื่อโน้นเกิดในภพโน้น สาวกชื่อโน้นเกิดในภพโน้น ดังนี้
เพื่อให้คนพิศวงก็หามิได้
เพื่อเกลี้ยกล่อมคนก็หามิได้
เพื่ออานิสงส์คือลาภสักการะและความสรรเสริญก็หามิได้
ด้วยความประสงค์ว่า คนจงรู้จักเราด้วยเหตุนี้ก็หามิได้.
ดูกรอนุรุทธะทั้งหลาย กุลบุตรผู้มีศรัทธา มีความยินดีมาก มีความปราโมทย์มาก มีอยู่ กุลบุตรเหล่านั้น ได้ฟังคำพยากรณ์นั้นแล้ว จะน้อมจิตเข้าไป เพื่อความเป็นอย่างนั้นบ้าง ข้อนั้นจะมีเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่กุลบุตรเหล่านั้นสิ้นกาลนาน.
หมายเหตุ:
การที่พระพุทธเจ้า ทรงมีเหตุของการพยากรณ์เพราะเหตุนี้ ไม่ใช่แบบที่มีอยู่ในยุคปัจจุบัน ที่เป็นเหตุของความหลง ความมัวเมาในอามิสบูชา คือ
เพื่อให้คนพิศวง
เพื่อเกลี้ยกล่อมคน
เพื่ออานิสงส์คือลาภสักการะและความสรรเสริญ