แก้ไขใหม่ ๓ มิย. ๒๕๖๖
ให้ดูสภาวะที่เห็นไว้ในปัจจุบัน
ส่วนตรงนี้ที่เขียนไว้ สมัยนั้น รู้แค่ไหน จะเขียนอธิบายไว้แค่นั้น
30 มีค. 2564
รูปนาม สุญญตา อนัตตา
.
รูปนาม
ได้แก่ ผัสสะ
มีเพียงสองสภาวะมีเกิดขึ้น คือสิ่งที่มีเกิดขึ้น กับ ใจที่รู้อยู่
–
อนัตตา
ได้แก่ ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สภาวะอนัตตา เกิดจากจิตที่เกิดการปล่อยวางกับสภาพธรรมที่กำลังมีเกิดขึ้น
ลักษณะที่มีเกิดขึ้นเด่นชัดของสภาวะอนัตตาคือ
รูปส่วนรูป นามส่วนนาม แยกขาดออกจากกัน ทำงานคนละส่วน
ปราศจากตัวตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสภาพธรรมที่กำลังมีเกิดขึ้น(อนัตตลักขณะ)
อนัตตาเกิดจากจิตปล่อยวาง
สามารถมีเกิดขึ้นขณะดำเนินชีวิตและขณะจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
ที่มีเกิดขึ้นขณะดำเนินชีวิต
โดยโยนิโสมนสิการ สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี กรรมและผลของกรรม
เห็นทุกข์ จิตพิจรณา เห็นความไม่เที่ยง
ทำให้จิตปล่อยวางจากสิ่งที่มีเกิดขึ้น(ความยึดมั่นถือมั่น)
เป็นอนัตตา บังคับไม่ได้
เหตุมี ผลย่อมมี
ที่มีเกิดขึ้นขณะทำกรรมฐาน
จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ(สัมมาสมาธิ)
การเจริญสติปัฏฐาน ๔
มีสภาวะกายแตก กายระเบิดที่มีเกิดขึ้น
จะมีสองสภาวะมีเกิดขึ้นคือ ใจที่รู้อยู่ กับ สิ่งที่มีเกิดขึ้น(ผัสสะ)
เป็นการรู้ชัดสภาวะรูปนามที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
–
สุญญตา
เกิดจากการละสักกายทิฏฐิ
ปราศจากความมีตัวตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสภาวะที่มีเกิดขึ้นเองตามความเป็นจริง
ไม่ได้เกิดจากการน้อมเอาคิดเอา นี่รูป นี่นาม
เจโตวิมุติมีอารมณ์อันว่าง เป็นไฉน?
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี
พิจารณาเห็นว่า สิ่งนี้ว่างจากตนบ้าง จากสิ่งที่เนื่องด้วยตนเอง ดังนี้
นี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เจโตวิมุติมีอารมณ์อันว่าง
ได้แก่ การละสักกายทิฏฐิ(โสดาปัตติผล) และละมานะ(อรหัตผล)
มีเกิดขึ้นขณะดำเนินชีวิตด้วยสีลวิสุทธิ
และหลังได้มรรคผล(โสดาปัตติผล)
จึงมีความเกิดขึ้นตามเป็นจริงของสภาวะเนวสัญญาฯ(ผู้ที่ได้วิโมกข์ ๘)
หลังจากนั้นแจ้งนิพพาน
ปฏิจจสมุปบาท(อวิชชา สังขาร วิญญาณ ฯลฯ) สภาวะสัญญาเกิดก่อน
กำลังสมาธิ(วิโมกข์ ๘)ที่มีอยู่ เสื่อมหายไปหมดสิ้น
ทำให้รู้ชัดผัสสะที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
แจ้งอริยสัจ ๔
สภาวะปัญญาที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
ความเกิด ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ฯลฯ
และความดับ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ฯลฯ
สกิทาคา สีลวิสุทธิ จิตตวิสุทธิ
อนาคามิผล
แจ้งอริยสัจ ๔
ความเกิด อวิชชา สังขาร วิญญาณ ฯลฯ
และความดับ อวิชชา สังขาร วิญญาณ ฯลฯ
อรหัตผล
แจ้งปฏิจจะ(อวิชชา สังขาร วิญญาณ ฯลฯ) สัญญาเกิดก่อน
กำลังสมาธิที่มีอยู่ เสื่อมหายไปหมดสิ้น
ทำให้รู้ชัดผัสสะที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
แจ้งอริยสัจ ๔
สภาวะปัญญาที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
ความเกิด รูปนาม สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ฯลฯ
และความดับ รูปนาม สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ฯลฯ
วิมุตติญาณทัสสนะมีเกิดขึ้น
แจ้งลักษณะอาการที่มีเกิดขึ้นของคำที่เรียกว่า วิมุตติ
เป็นสภาวะตามความเป็นจริง(สภาวะจิตดวงสุดท้าย ๓ ครั้ง)
แจ้งอริยสัจ ๔
.
ถ้าให้พูดตามความเป็นจริง
หากดำเนินศิล เป็นสีลวิสุทธิ
มีผลต่อจิตตวิสุทธิ ทำให้ดำเนินถูกทางมรรคองค์ ๘
สติปัฏฐาน ๔ จะมีเกิดขึ้น
เพราะอินทรีย์ ๕ มีผลต่อสติปัฏฐาน ๕
จะรู้ชัดมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับอินทรีย์ ๕
สภาวะที่มีเกิดขึ้น ให้กำหนดตามความเป็นจริง
อย่านำตัวตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสภาภธรรมที่มีเกิดขึ้น
เมื่อมรรคผลมีเกิดขึ้น จะดูสภาวะจิตดวงสุดท้ายเป็นหลัก
กายแตก กายระเบิด อุปมาเหมือนบันได เป็นทางผ่าน
เมื่อมีเกิดขึ้นบ่อยๆ ช่วยละความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ๕
จนกระทั่งสภาวะจิตดวงสุดท้ายมีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
.
สภาวะจิตดวงสุดท้าย เป็นเรื่องความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ๕ ตามความเป็นจริง
หากยังยึดมั่นถือมั่น จะผ่านไปได้ยาก เพราะติดอุปกิเลส
เมื่ออุปกิเลสมีเกิดขึ้น ย่อมคิดว่าตนเป็นโน่นนี้ ตามที่เคยอ่านมา
เมื่อตัณหา(ความอยาก) มีเกิดขึ้น แล้วไม่รู้เท่าทันตัณหา
สภาวะจึงจมแช่อยู่แค่นั้น