ว่าด้วยมานะลักษณะต่างๆ
[๘๒๙] ชื่อว่ามานะ ในคำว่า พึงกำหนดรู้มานะ
คือ มานะอย่างหนึ่งได้แก่ความฟูขึ้นแห่งจิต.
มานะ ๓ อย่าง
ได้แก่มานะว่าเราดีกว่าเขา ๑
มานะว่าเราเสมอเขา ๑
มานะว่า เราเลวกว่าเขา ๑.
มานะ ๔ อย่าง
ได้แก่บุคคลให้มานะเกิดเพราะลาภ ๑
ให้มานะเกิดเพราะยศ ๑
ให้มานะเกิดเพราะสรรเสริญ ๑
ให้มานะเกิดเพราะสุข ๑.
มานะ ๕ อย่าง
ได้แก่ บุคคลให้มานะเกิดว่า เราได้รูปที่ชอบใจ ๑
ให้มานะเกิดว่า เราได้เสียงที่ชอบใจ ๑
ให้มานะเกิดว่า เราได้กลิ่นที่ชอบใจ ๑
ให้มานะเกิดว่าเราได้รสที่ชอบใจ ๑
ให้มานะเกิดว่า เราได้โผฏฐัพพะที่ชอบใจ ๑.
มานะ ๖ อย่าง
ได้แก่บุคคลให้มานะเกิดเพราะความถึงพร้อมแห่งจักษุ ๑
ให้มานะเกิดเพราะความถึงพร้อมแห่งหู ๑
ให้มานะเกิดเพราะความถึงพร้อมแห่งจมูก ๑
ให้มานะเกิดเพราะความถึงพร้อมแห่งลิ้น ๑
ให้มานะเกิดเพราะความถึงพร้อมแห่งกาย ๑
ให้มานะเกิดเพราะความถึงพร้อมแห่งใจ ๑.
มานะ ๗ อย่าง
ได้แก่ความถือตัว ๑
ความดูหมิ่น ๑
ความถือตัวและความดูหมิ่น ๑
ความถือตัวต่ำ ๑
ความถือตัวสูง ๑
ความถือตัวว่าเรามั่งมี ๑
ความถือตัวผิด ๑.
มานะ ๘ อย่าง
ได้แก่บุคคลให้ความถือตัวเกิดเพราะลาภ ๑
ให้ความถือตัวต่ำเกิดเพราะความเสื่อมลาภ ๑
ให้ความถือตัวเกิดเพราะยศ ๑
ให้ความถือตัวต่ำเกิดเพราะความเสื่อมยศ ๑
ให้ความถือตัวเกิดเพราะความสรรเสริญ ๑
ให้ความถือตัวต่ำเกิดเพราะความนินทา ๑
ให้ความถือตัวเกิดเพราะสุข ๑
ให้ความถือตัวต่ำเกิดเพราะทุกข์.
มานะ ๙ อย่าง
ได้แก่มานะว่าเราดีกว่าคนที่ดี ๑
มานะว่า เราเสมอกับคนที่ดี ๑
มานะว่า เราเลวกว่าคนที่ดี ๑
มานะว่า เราดีกว่าผู้เสมอกัน ๑
มานะว่า เราเสมอกับผู้เสมอกัน ๑
มานะว่า เราเสมอกับผู้เลว ๑
มานะว่า เราดีกว่าผู้เลว ๑
มานะว่า เราเสมอกับผู้เลว ๑
มานะว่าเราเลวกว่าผู้เลว.
มานะ ๑๐ อย่าง
ได้แก่ บุคคลบางคนในโลกนี้
ยังมานะให้เกิดเพราะชาติบ้าง เพราะโคตรบ้าง ฯลฯ
เพราะวัตถุอื่นๆ บ้าง
ความถือตัว กิริยาที่ถือตัว ความเป็นผู้ถือตัว
ความกำเริบขึ้น ความฟูขึ้น
มานะดังว่าธงไชย มานะอันประคองจิตไว้
ความที่จิตใคร่ดังว่าธงยอดเห็นปานนี้
นี้เรียกว่า มานะ.
คำว่า พึงกำหนดรู้มานะ
ความว่า พึงกำหนดรู้มานะด้วยปริญญา ๓
คือ ญาตปริญญา ตีรณปริญญา ปหานปริญญา
ญาตปริญญาเป็นไฉน?
นรชนย่อมรู้จักมานะ
คือ ย่อมรู้ ย่อมเห็นว่านี้เป็นมานะอย่างหนึ่ง
ได้แก่ความฟูขึ้นแห่งจิตเป็นมานะ ๒ อย่าง
ได้แก่มานะในการยกตน มานะในการข่มผู้อื่น ฯลฯ นี้เป็นมานะ ๑๐ อย่าง
ได้แก่บุคคลบางคนในโลกนี้ ยังมานะให้เกิด
เพราะชาติบ้าง เพราะโคตรบ้าง ฯลฯ เพราะวัตถุอื่นๆ บ้าง
นี้ชื่อว่า ญาตปริญญา.
ตีรณปริญญาเป็นไฉน?
นรชนรู้อย่างนี้แล้วย่อมพิจารณามานะ
โดยความเป็นของไม่เที่ยง โดยความเป็นทุกข์ ฯลฯ
โดยอุบายเป็นเครื่องสลัดทุกข์
นี้ชื่อว่า ตีรณปริญญา.
ปหานปริญญาเป็นไฉน?
นรชนพิจารณาอย่างนี้แล้ว
ย่อมละ บรรเทา ทำให้สิ้นไป ให้ถึงความไม่มี ซึ่งมานะ
นี้ชื่อว่าปหานปริญญา.
คำว่า พึงกำหนดรู้มานะ
คือ พึงกำหนดรู้มานะด้วยปริญญา ๓ นี้
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าพึงกำหนดรู้มานะ.
= อธิบาย =
มานะ
เกิดจาก กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ตัณหา ๓ เกิดจากฉันทราคะในอุปาทานขันธ์ ๕
ลักษณะอาการมานะต่างๆ ที่มีเกิดขึ้น
เกิดจาก
สักกายทิฏฐิ
อัตตานุทิฏฐิิ
อัตตวาทุปาทาน
สักกายทิฏฐิ เกิดจากกามตัณหา
อัตตานุทิฏฐิิ เกิดจากภวตัณหา
อัตตวาทุปาทาน เกิดจากวิภวตัณหา