สิ่งที่เราเขียนมานั้น จะค่อยๆรู้ ก็เขียนมาเรื่อยๆ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ผุดหรือจิตเกิดการพิจรณาโดยสภาวะของมันเอง ปราศจากตัวตน และตัณหา ทิฏฐิ เข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อวานสิ่งที่เขียน เช้านี้จิตพิจรณาของมันเอง ทำให้รู้ว่า อุปาทาน ๔ นั้น ความรู้ความเห็นเกี่ยวกับคำเรียกเหล่านั้น เช่น คำว่ากามุปาทาน เป็นเรื่องของตัณหา ๓
กามตัณหา(กาพภพ) ละกามตัณหา
ภวตัณหา รูปภพ(รูปภพ) อรูปภพ(อรูปภพ) ละภวตัณหา ละภพ ๓
วิภาวตัณหา อัตตวาทุปาทาน ละวิภาวตัณหา(อวิชชา)
ความรู้ความเห็นมีเกิดขึ้นขณะสภาวะจิตดวงสุดท้ายเกิดขึ้นแล้วดับ
วิชชา ๑(สภาวะจิตดวงสุดท้ายครั้งที่ ๑
อัปปณิหิตวิโมกข์(รู้ชัดทุกขังที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง/ปรมัตถ์) มีเกิดขึ้นก่อน
สภาวะจิตดวงสุดท้ายมีเกิดขึ้นต่อ แล้วดับ
ละสักกายทิฏฐิ ละความเห็นผิดเป็นตัวตนเรา เขา
และละความเห็นผิดเรื่องกรรมและผลของกรรม(สัมมาทิฏฐิ)
วิชชา ๒(สภาวะจิตดวงสุดท้ายครั้งที่ ๒)
สุญญตวิโมกข์(รู้ชัดอนัตตาที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง/ปรมัตถ์) มีเกิดขึ้นก่อน
สภาวะจิตดวงสุดท้ายมีเกิดขึ้นต่อแล้วดับ
ละความเห็นผิดในตัวตนของเรา ของเขา
และละความเห็นผิดเที่ยงและสูญ
วิชชา ๓(สภาวะจิตดวงสุดท้ายครั้งที่ ๓)
อนิมิตตวิโมกข์(รู้ชัดอนิจจังที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง/ปรมัตถ์) มีเกิดขึ้นก่อน
สภาวะจิตดวงสุดท้ายมีเกิดขึ้นต่อ แล้วดับ
ละอัตตวาทุปาทาน(ละความเห็นผิดเกี่ยวกับทิฏฐิ ๖๒ ประการใน ๑. พรหมชาลสูตร)
ทำให้ละมานะ
คือ ความรู้ความเห็นในคำเรียก อุปาทาน
กามมุปาทาน
ทิฏฐุปาทาน
สีลลัพตปรามาส
อัตตวาทุปาทาน
จะเข้าใจต้องแจ้งอริยสัจ ๔ อริยมรรคมีองค์ ๘ และสัมมาทิฏฐิ คือ
ครั้งที่ ๑ วิชชา ๑ ละความผิดในอุปาทาน ๔
ครั้งที่ ๒ วิชชา ๒ ละความผิดในอุปาทาน ๔
ครั้งที่ ๓ วิชชา ๓ ละความผิดในอุปาทาน ๔
ครั้งที่ ๔ วิมุตติญาณทัสสนะ ละความเห็นผิดในขันธ์ ๕และอุปาทานขันธ์ ๕
สัมมาทิฏฐิ มีความรู้ความเห็นตอนแรกรู้เฉพาะตนก่อน
มีเกิดขึ้นขณะสภาวะจิตดวงสุดท้าย แล้วดับ
ในวิชชา ๑ ๒ ๓ ความรู้ความเห็นที่มีเกิดขึ้น ในแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน
คือขณะก่อนเกิดความดับ ก็มีความแตกต่างกัน(วิโมกข์ ๓)
เช่น สภาวะจิตดวงสุดท้ายครั้งที่ ๑ รู้ชัดสภาวะทุกข์(อัปปณิหิตวิโมกข์)
ที่เกิดจากความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ๕ เป็นตัวตน เรา เขา
เมื่อปล่อยวางจากความยึดมั่นถือมั่น แล้วดับ
หลังจากนั้น แจ้งอริยสัจ ๔ มีเฉพาะผู้ที่ได้วิโมกข์ ๘ ครั้งแรก
ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับอินทรีย์ ๕ คือ
วิธีการกระทำเพื่อดับทุกข์ คือดับตัณหา ๓ ตามลำดับ
จนวิมุตติญาณทัสสนะ มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
จะแจ้งคำว่า วิมุตติ ที่มีลักษณะอาการที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
คือสภาวะจิตดวงสุดท้าย มีเกิดขึ้น ๓ ครั้ง
แจ้งอริยสัจ ๔ มี ๔ ครั้ง
วิธีการกระทำเพื่อดับทุกข์(ดับตัณหา ๓)
สัมมาทิฏฐิ มีเกิดขึ้น ๔ ครั้ง
–
สรุป ต้องเขียนเริ่มตั้งแต่
๑. สีลปาริสุทธิ
การรักษาศิล ขึ้นอยู่กับฟังจากใคร
การรักษาศิล(ทางกาย วาจา ใจ) ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ผลที่ได้รับ ย่อมไม่เหมือนกัน
๒. จิตตปาริสุทธิ
วิธีการทำกรรมฐาน
วิธีละนิวรณ์
วิธีละความยึดมั่นถือมั่นสิ่งที่มีเกิดขึ้นขณะจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
๓. ทิฏฐิปาริสุทธิ
ได้แก่ ผัสสะ
สามารถเกิดจากฟังผู้ที่รู้เห็นมาก่อน(แจ้งอริยสัจ ๔)
หรือจากการศึกษาที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้
๔. วิมุตติปาริสุทธิ
ก่อนจะรู้อาการลักษณะอาการที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรียกว่า วิมุตติ
คือจะมีสภาวะจิตดวงสุดท้ายที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริงก่อน ครั้งที่ ๑
ความรู้ความเห็นต่างๆเกี่ยวกับอริยสัจ ๔ จะมีเกิดกับผู้ปฏิบัติวิโมกข์ ๘ ครั้งแรกก่อน
ที่นี้ขึ้นอยู่กับอินทรีย์ ๕ คือสภาวะสัญญาเกิดก่อน
ถ้ายึดมั่นถือมั่น ทำให้ไม่สามารถความรู้เห็นอื่นๆ ที่ยังมีอยู่
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าผู้ปฏิบัติได้วิโมกข์ ๘
เนื่องจากกำลังสมาธิมาก ทำให้ไม่สามารถรู้ชัดผัสสะ ที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
การที่จะรู้วิธีการกระทำเพื่อดับทุกข์ จะรู้แค่เพียงการรักษาศิล และทำกรรมฐาน
ตามความรู้ของเห็นที่ตนรู้จากการปฏิบัติ
เมื่อมีเหตุปัจจัยให้กำลังสมาธิที่มีอยู่(วิโมกข์ ๘) เสื่อมหายไปหมดสิ้น
ทำให้รู้ชัดผัสสะที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
ทำให้รู้ชัดเวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
คือรู้ลักษณะอาการที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริงของคำเรียกเหล่านี้(ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ)
ทำให้แทงตลอดอริยสัจ ๔ ที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
ทำให้นำความรู้ความเเห็นนี้สามารถนำมากระทำเพื่อดับทุกข์คือดับกามตัณหา
คือดับกามภพ เป็นสิ่ง(ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ) ที่มีเกิดขึ้นขณะดำเนินชีวิต
.
ส่วนผู้ที่ปฏิบัติได้รูปฌาน อรูปฌาน จะไม่รู้อริยสัจ ๔ ด้วยตนเอง อาศัยการศึกษาหรือการฟังผู้ที่ผ่านทางนี้มาก่อน แล้วตั้งใจทำความเพียรต่อเนื่อง ไม่ท้อถอย ถึงเวลาเหตุปัจจัยพร้อม(ศิล สมาธิ ปัญญา) สภาวะจิตดวงสุดท้ายครั้งที่ ๒ จะมีเกิดขึ้น
แล้วปฏิบัติเดิมๆซ้ำๆ ตั้งใจทำความเพียรต่อเนื่อง ไม่ท้อถอย ถึงเวลาเหตุปัจจัยพร้อม(ศิล สมาธิ ปัญญา) สภาวะจิตดวงสุดท้ายครั้งที่ ๓ มีเกิดขึ้น วิมุตติญาณทัสสนะจะมีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง จะรู้ว่าวิมุตติที่มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริงก็คือสภาวะจิตดวงสุดท้าย ส่วนความรู้ความเห็น จิตจะมีการพิจรณาเรื่องขันธ์ ๕และอุปทานขันธ์ ๕
.
สิ่งที่เขียนไว้เมื่อวานเกี่ยวกับอุปาทาน ๔
เป็นสภาวะของผู้ที่มีวิชชา ๒ มีเกิดขึ้นตามความเป็นจริง
ความรู้ความเห็น สัมมาทิฏฐิ ที่มีเกิดขึ้นขณะสภาวะจิตดวงสุดท้าย(ครั้งที่ ๒) ที่มีเกิดขึ้น จะมีความรู้ความเห็นเฉพาะตน ก่อนดับ
คือจะมีเกิดขึ้นตามที่เขียนไว้