ปริยัติ เกิดขึ้นเองตามเหตุปัจจัย ไม่ได้อยากรู้ เพราะสิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นเพียง สภาวะสัญญา ที่ใช้ในการถ่ายทอดออกไป
เวลารู้ ไม่ใช่รู้ครั้งเดียวจบ จะค่อยๆรู้แบบตัวต่อ ต้องทำความเพียรต่อเนื่อง สภาวะเหล่านี้จะเกิดขึ้นเอง ตามเหตุปัจจัย ไม่สามารถเจาะจงได้ว่า จะเกิดขึ้นเมื่อใด
เหมือนเรียนหนังสือ เรียนไปทีละบท ทีละตอน หนังสือสามารถเปิดอ่านล่วงหน้าได้ แต่สภาวะที่เกิดขึ้นภายในจิต คาดเดาไม่ได้ เปิดอ่านก็ไม่ได้ มีความอยากรู้ก็ไม่ได้ เรียกว่า มีกิเลสแทรกไม่ได้ ต้องแล้วแต่เหตุปัจจัยจริงๆ
ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับการทำความเพียรต่อเนื่อง และการหยุดสร้างเหตุนอกตัว ที่เกิดจาก ความรู้สึกยินดี/ยินร้าย
สภาวะปัญญา รู้แล้ว จบจริงๆ จบภพ จบชาติ(ปัจจุบัน ขณะ)
ส่วนอยู่จบพรหมจรรย์ สังโยชน์ ๑๐ ต้องถูกประหานหมดสิ้น ที่เกิดจาก สภาวะสมุจเฉทประหาน ซึ่งเกิดขึ้นใน สภาวะสัมมาสมาธิิเท่านั้น
เกิดขึ้นใน ปัจจุบันธรรม ไม่ใช่ใน ปัจจุบัน ขณะ
หากยังไม่เบื่อการเกิด สร้างเหตุของ การดับภพชาติปัจจุบัน ได้แก่ ปัจจุบัน ขณะ
หากไม่อยากเกิดอีกต่อไป ต้องสร้างทั้งเหตุของปัจจุบัน ขณะ และ ปัจจุบันธรรม ขาดอย่างใด อย่างหนึ่ง สภาวะย่อมย่อหย่อน สภาวะสมุจเฉทประหาน ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก
แก้ที่เหตุ ที่ตัวเองยังมีอยู่และเป็นอยู่
เมื่อแก้ได้ ใจย่อมสงบ ไม่ว่อกแว่ก ทางย่อมตรง ไม่คดเคี้ยว ไม่วกวน
รู้ที่จิต จบที่จิต